องค์กรของเรากำลังทำงานแบบ “แก้ขัด” อยู่หรือเปล่า

Psychological Safety . ในยุคที่มีการแข่งขันในทางธุรกิจ แต่ละคนต้องรับผิดชอบหน้าที่มากมาย และแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้.แต่เราเคยสังเกตมั้ยคะว่า แต่ละงานที่สำเร็จลุล่วงไปได้นั้น เกิดจากการ “แก้ขัด” หรือ“แก้ไข” หรือการปรับปรุงระบบการทำงานอย่างจริงจัง.ตัวอย่างการใช้วิธีแก้ขัด สำหรับปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การทำงาน เช่น โรงพยาบาลมีผ้าปูเตียงของบางแผนกไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่อาจแก้ขัด ด้วยการไปยืมแผนกอื่นมาก่อน ซึ่งทำให้แก้ปัญหาหน้างานได้ แต่ก็อาจจะสร้างปัญหาความขาดแคลนให้แผนกที่ยืมมาเช่นกัน.การแก้ขัด อาจส่งผลดีในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ก็อาจทำให้ขัดขวางการปรับปรุงกระบวนการทำงานในระยะยาว ซึ่งการปรับปรุงกระบวนการทำงานนั้นจะต้องอาศัย “ความปลอดภัยทางใจ”หรือความปลอดภัยเชิงจิตวิทยา (Psychological Safety) ที่มากพอ.การแก้ขัด มักเกิดขึ้นเมื่อคนทำงาน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย ที่จะแสดงความคิดเห็น เสนอแนะให้ปรับปรุงระบบ เพราะอาจจะกลัวขัดแย้ง เสียความสัมพันธ์ หรือกังวลว่าผู้นำจะมองตนในแง่ลบจึงเลือกที่จะเงียบและค่อยๆ แก้ขัด กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างซ้ำๆ.ดังนั้น การทำงานที่มีความปลอดภัยทางใจสูงจะช่วยส่งเสริมให้คนทำงานกล้าพูดถึงข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถแลกเปลี่ยนความรู้กัน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ต้นตอ และช่วยกัน“แก้ไข” ปรับปรุงระบบการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ อีกทั้งช่วยส่งเสริมให้คนสามารถคิดนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้.The fearless organization Psychological Safety อาจารย์ฐิตา ภัทรวรวิศิษฏ์ (อ.ปุ๊)